Sun. May 5th, 2024

เครียดเรื่องเงินมากเลยตอนนี้” เชื่อว่าจะเป็นคำบ่นหนึ่ง ของผู้ที่หมุนเงินไม่ไหว อารมณ์นี้เอาเป็นว่าเข้าใจนะ เพราะเคยผ่านมาแล้วเช่นกัน ไม่ใช่แค่ตัวเราหรอก เพื่อน ๆ เราก็เช่นกัน เปลี่ยนกันบ่นให้กันและกันฟัง วนเวียนไปอยู่อย่างนี้  พอพากันเครียดมากเข้า ก็ลงความเห็นตรงกันว่า พอเหอะ พูดเรื่องอื่นกันดีกว่าเนาะ… มันเครียด!!

ถึงจะเครียดมากแค่ไหน เราจะทำเป็นไม่สนใจเลย ก็คงไม่ได้ อาจจะทำได้ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น การมองหาทางออกเอาไว้ล่วงหน้า เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากวันไหนที่เราจ่ายไม่ไหวจริง ๆ จะได้ไม่อับจนหนทางเกินไป จนเป็นสาเหตุของเรื่องเลวร้าย

ไปดูกันว่า วิธีการแก้ปัญหาหนี้สินจะพอมีแนวทางไหนที่เอาไปปรับใช้กันได้บ้าง

มีหนี้สินต้องอ่าน!! 3 ข้อแก้ปัญหาหนี้สินท่วมหัว (เอาตัวรอดได้)

1. จ่ายชำระขั้นต่ำอย่าได้ขาด :

ในเมื่อตัดสินใจไปกู้เงินมาใช้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หรือหนี้บัตรกดเงินสดก็ตามที หน้าที่ที่ควรทำก็คือ การจ่ายคืนเค้าไป หากเรามีบัตรหลายใบ อาจทำให้วันที่ในการจ่ายชำระสับสน ดังนั้นก็ทำเป็นตารางเอาไว้ใช้ รับรองว่าไม่พลาดแน่นอน

เราเคยแนะนำเพื่อนให้ทำแบบนี้ เพราะชอบมาบ่นให้ฟังว่า โดนค่าติดตามทวงถามครั้ง 100 บาท อยู่ตลอด หลัง ๆ มาก็บ่นถี่มากขึ้น เราจึงเดาไปว่าเพื่อนคงหมุนเงินไม่ค่อยทันมากกว่า จึงยอมให้เค้าปรับ ก็เลยย้ำไปว่า ให้ระวังติดเครดิตบูโรด้วยนะ จะไม่คุ้มกัน เพราะหากมีชื่อในเครดิตบูโรขึ้นมาเมื่อไหร่ แม้เราจะจ่ายหนี้หมดไปแล้วก็ตาม แต่ต้องรอเวลาอีก 3 ปี จึงจะทำการกู้ยืมเงินได้อีกครั้ง

2. จ่ายไม่ไหวขอปรับโครงสร้างหนี้ :

เรียกว่าเป็นหนึ่งทางเลือกดีกว่า ก่อนอื่นเรามาดูผลกระทบกันก่อน วิธีนี้ต้องเข้าใจก่อนเลยว่า เราต้องเสียเครดิตไปถึง 3 ปี ซึ่งเอาจริง ๆ เวลาไปคุยกับสถาบันการเงินต่าง ๆ เค้าจะไม่แนะนำ แต่หลายที่ก็เชียร์ให้ทำหากลูกหนี้ไม่ยอมจ่าย เพื่อหวังผลความได้เปรียบเวลาที่ส่งเรื่องฟ้องศาล ว่าได้ช่วยลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ไปแล้ว

เราเคยไปปรึกษาที่ธนาคารออมสิน พนักงานแนะนำให้เราคิดให้ดี ๆ เพราะเวลา 3 ปี มันมากสำหรับคนที่ต้องการจะกู้ยืมเงิน เพราะในช่วงเวลานี้ลูกหนี้จะกู้เงินไม่ได้อีกเลย

ข้อดีที่เห็นได้คือ ระยะเวลาที่มาคำนวณกันใหม่ จะทำให้เราจ่ายต่อเดือนน้อยลง ก็ถือว่าเป็นทางเลือก และเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับการเคลียร์หนี้สินเก่า ๆ ให้จบไป แต่ต้องทำใจยอมรับดอกเบี้ย ค่าปรับ ต่าง ๆ ด้วย เพราะหากมี จะถูกนำมารวมในเงินกู้ก้อนใหม่นี้ทั้งหมด

3. ไม่จ่ายแม้แต่ขั้นต่ำแต่รอทำ Hair cut หนี้แทน :

ในเมื่อคิดมาดีแล้วว่า จะไม่จ่ายอีกต่อไปแม้แต่ขั้นต่ำ เพราะจ่ายไม่ไหว และไม่ขอปรับโครงสร้างหนี้ แบบนี้ก็รอเวลาทำ Hair cut หนี้แทนได้ คือรอให้เจ้าหนี้ติดต่อมาเพื่อเจรจาลดหนี้กันไป เคล็ดลับที่จะทำให้ลูกหนี้แบบเราได้เปรียบก็คือ เมื่อหยุดจ่ายแล้ว ก็อย่าได้ติดต่อไปหาเจ้าหนี้ก่อนเด็ดขาด เพราะจะทำให้เราเสียเปรียบทันที เพราะเค้ามีระยะเวลาในการติดตามทวงหนี้ รวมถึงตัวเลขที่จะเจรจาต่อรองกับเราอยู่แล้ว แค่รอกำหนดเวลาเท่านั้นเอง

ถามว่าทำไมเจ้าหนี้ถึงยอมทำ Hair cut หนี้ให้เรา เพราะเค้าเบื่อที่จะทวงแล้ว แถมยังต้องไปดำเนินการขึ้นศาลให้วุ่นวายอีก ยิ่งหากเป็นหนี้ที่หมดอายุความ ฟ้องยังไงลูกหนี้ก็ชนะ แต่หลายครั้งที่ลูกหนี้ไม่รู้ ไม่เขียนคำร้องต่อสู้คดี ก็ต้องแพ้เจ้าหนี้ไปอย่างน่าเสียดายเหมือนกัน

ดังนั้น หากตกลงกันได้ และได้เงินก้อนกลับมาในจำนวนที่เหมาะสม ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีของทั้ง 2 ฝ่าย ลูกนี้ก็หมดหนี้สิน ส่วนเจ้าหนี้ก็ได้เงินก้อนไปออกเงินกู้กับคนอื่นได้อีก

อันที่จริงแล้ว เป็นหนี้เค้าก็ควรจ่ายคืนเค้าไป จ่ายขั้นต่ำก็ยังดี โบนัสออกหรือโชคดีมีเงินก้อน ก็คืนในจำนวนที่มากขึ้นได้ แต่หากไม่ไหวจริง ๆ ก็พอมีทางเลือกให้เราเดิน แต่ก็ต้องแลกมากับสิ่งที่เสียไป คือ มีชื่อในเครดิตบูโร และจะกู้เงินในระบบไม่ได้อีก 3 ปี (หลังจากชำระหนี้หมดแล้ว)

แต่หากเป็นผู้ที่มีทรัพย์สิน ต้องระวังการถูกสืบทรัพย์บังคับคดี ดังนั้นหากไม่อยากเสียทรัพย์สินไป ก็ต้องมีวิธีการขายให้แนบเนียนด้วย (แนะนำปรึกษาทนาย) เพราะหากพลาดขึ้นมา อาจเป็นคดีอาญาได้

By : Parichart J.