การทำ Hair cut หนี้ คือการที่ลูกหนี้กับเจ้าหนี้ตกลงที่จะเจรจากัน ในเรื่องของยอดหนี้ที่ค้างกันมานาน ว่าจะลดให้มากน้อยแค่ไหน เป็นจำนวนเงินเท่าไร โดยยึดหนี้ค้าง ณ วันที่เจรจาเป็นหลัก เจ้าหนี้จะเป็นผู้เสนอตัวเลขมาให้กับลูกหนี้ ว่าจะลดให้เท่าไรหรือแจ้งเป็นเปอร์เซนต์มาให้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะคำนวณเป็นยอดตัวเลขมาให้เลย
เพื่อให้เรา (ลูกหนี้) เป็นฝ่ายได้เปรียบ ให้จำไว้ว่า อย่าไปเสนอการเจรจา หรือ Hair cut หนี้ก่อนเด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นว่าเราไปง้อเจ้าหนี้ทันที เจ้าหนี้ก็จะกุมความได้เปรียบเอาไว้เต็ม ๆ เราควรรอเวลาสักนิด เพื่อให้เจ้าหนี้ติดต่อมาหา เพราะหนี้บัตรเครดิต หรือ หนี้บัตรกดเงินสด ไหน ๆ เราก็หยุดจ่ายไปแล้ว รอให้เจ้าหนี้เสนอส่วนลดมาให้เราก่อนสักนิดจะดีกว่า เพราะเขาก็อยากได้เงินคืน ตรงนี้จะทำให้ลูกหนี้กุมความได้เปรียบในการเจรจาต่อรองหนี้ได้มากขึ้น
5 สาเหตุ ทำไมจึงเกิดกระบวนการ Hair Cut หนี้ (เจรจากับส่วนลดกับเจ้าหนี้)
1.เจ้าหนี้เบื่อทวงหนี้
แค่ลูกหนี้ขาดส่งไปเดือนเดียว พนักงานทวงหนี้ทางโทรศัพท์ก็ตามทวงหนี้แล้ว ตามบ่อย ๆ เข้า ก็เหนื่อย ก็เบื่อที่จะตามทวง เลยตัดหนี้ของเราเป็นหนี้สูญไปก่อน และต้องไปตั้งเงินสำรองหนี้สูญตามข้อกำหนดด้วย จึงเลือกที่จะทำ Hair Cut หนี้ จนได้ตัวเลขที่พอใจทั้ง 2 ฝ่าย แล้วเอาเงินสำรองส่วนนี้บวกกับเงินคืนที่ได้จากลูกหนี้ ไปปล่อยเงินกู้ต่อ เก็บดอกเบี้ยเงินกู้จากลูกหนี้รายอื่นดีกว่า ปัญหาที่จะยืดเยื้อเรื้อรัง ก็จะได้จบเป็นเรื่อง ๆ ไปด้วย
2.เจ้าหนี้ไม่อยากขึ้นศาล
ลูกหนี้ไม่มีใครอยากขึ้นศาลบัตรเครดิตหรอก และเจ้าหนี้ส่วนหนึ่ง ก็ไม่อยากขึ้นศาลเหมือนกัน เพราะอาจแพ้คดีได้ เพราะศาลจะมองว่าดอกเบี้ยแพงเกินไป และซ้อนการเอาเปรียบลูกหนี้ไว้อยู่มาก ดังนั้นโอกาสแพ้คดีจึงมีสูง ร้ายที่สุดก็คือศาลอาจพิจารณาให้ไม่ได้เงินคืนจากลูกหนี้เลย หรือได้คืนน้อยมาก ไม่คุ้มค่าเหนื่อยค่าเดินทางไปศาลด้วยซ้ำ จึงเลือกการ Hair Cut หนี้ดีกว่า อย่างน้อยได้เงินมาส่วนหนึ่งก็ยังดี เพราะดอกเบี้ยเงินกู้ที่ขูดจากลูกหนี้ไว้ก่อนหน้านี้ มันก็เยอะมาพอดูแล้ว
3.เป็นหนี้ที่ไม่มีการค้ำประกัน
หนี้บัตรเครดิต หรือหนี้บัตรกดเงินสดเหล่านี้ เป็นหนี้ส่วนตัวที่ไม่มีการค้ำประกัน หากเกิดอุบัติเหตุชีวิต หรืออุบัติเหตุใด ๆ ระหว่างที่เป็นหนี้อยู่ เจ้าหนี้จะไม่ได้อะไรเลย ดังนั้นการกดดันจนลูกหนี้เกิดคิดสั้นขึ้นมา ถือว่าไม่เป็นการดีต่อเจ้าหนี้ หากมีกรณีแบบนี้หลายราย ก็คูณเข้าไป ว่าจะเป็นเงินมหาศาลแค่ไหน เมื่อได้ดอกเบี้ยเงินกู้จากลูกหนี้มาเยอะแล้ว จนลูกหนี้หลังชนฝา ก็เลือกทำ Hair Cut หนี้ดีกว่า จะยังได้เงินก้อนไปออกดอกเบี้ยเงินกู้ต่อได้
4.ไม่อยากจ้างสำนักงานทวงหนี้
การจ้างสำนักงานทวงหนี้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ตัดภาระออกไป หากทวงหนี้มาได้ เจ้าหนี้ก็แบ่งเปอร์เซ็นต์ให้ไปตามตกลง แต่หากคิดไปคิดมาแล้ว ท้ายที่สุดได้เงินจากลูกหนี้คืนมาในจำนวนที่เท่ากัน จะไปจ้างให้ยุ่งยากทำไมล่ะ สู้เรียกลูกหนี้มาเจรจาต่อรองกันดีกว่า ก็คือการ Hair Cut หนี้นั่นแหละ ถ้าตัวเลขที่เสนอไปลูกหนี้รับได้ พอใจกันทั้งสองฝ่าย ก็เป็นอันปิดเคสกันไป เพราะบางทีหนี้เสียมาก ๆ จะขายต่อในราคาที่ต้องการก็ไม่น่าจะได้ราคา
5.เป็นหนี้ที่ขาดอายุความไปแล้ว
มี 2 คำถามที่จะขอตอบไว้ก่อนก็คือ
1.หนี้บัตรเครดิตกี่ปีหมดอายุความ >> ตอบ 2 ปี
2. หนี้บัตรกดเงินสด อายุความกี่ปี >> ตอบ 5 ปี
แต่ถึงแม้ว่าหนี้จะขาดอายุความไปแล้ว ก็ยังไม่เป็นการระงับการชำระหนี้บัตรเครดิตหรือบัตรอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน แต่ลูกหนี้ก็สามารถปฏิเสธที่จะไม่ชำระหนี้ก้อนนั้นได้ ดังนั้นเจ้าหนี้ก็คงจะไม่ยอมให้เกิดกรณีแบบนี้แน่ ยกเว้นแต่สุดวิสัยจริง ๆ เท่านั้น ทางเลือกที่ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ก็คือการทำ Hair Cut หนี้ จึงมีการเคาะตัวเลขที่ดีที่สุดเสนอลูกหนี้ เพื่อให้ได้เงินก้อนกลับมา ยังดีซะกว่าไม่ได้อะไรเลย
By.Parichart J.